วันนี้แอดมินก็จะมาพูดถึง สงครามโหดร้าย ที่เกิดขึ้นในประวัติศาสตร์ การปิดล้อมเมืองหรือป้อมปราการในสมัยโบราณ ส่วนใหญ่มีเป้าหมายหลัก เพื่อพิชิตคู่ต่อสู้ฝ่ายตรงข้าม ด้วยการค่อยๆลดทอนกำลังลง ซึ่งเป็นวิธีที่มักจะไม่ใช้กำลังรุนแรง แต่ว่าต้องใช้เวลาต่อเนื่องยาวนาน ในการปิดบังบังคับกดดัน รวมถึงการปิดช่องทางการสัญจร และการสื่อสารก็สร้างผลลัพธ์ที่น่ากลัว และร้ายแรงถึงชีวิตได้
ซึ่งสงครามที่จะพูดถึงในวันนี้ก็คือตัวอย่างของการปิดล้อมสุดแสนเลวร้ายและน่ากลัว ที่เคยเกิดขึ้นในประวัติศาสตร์ เดี๋ยวเราไปติดตามพร้อมกันค่ะ แต่ก่อนที่จะไป แอดมินก็ต้องขอฝากให้ไปติดตาม วัตถุต้องคำสาป กันด้วยนะคะ และในวันนี้ก็ต้อง ขอขอบคุณ เบทฟิก68 ที่สนับสนุนบทความของเราในวันนี้ด้วยค่ะ
🎊 🎊 🎊 🎊 🎊 🎊 🎊 🎊 🎊 🎊 🎊 🎊 🎊 🎊 🎊 🎊 🎊 🎊 🎊 🎊 🎊 🎊 🎊 🎊
สงครามโหดร้าย ที่เกิดขึ้นในประวัติศาสตร์
🎊 🎊 🎊 🎊 🎊 🎊 🎊 🎊 🎊 🎊 🎊 🎊 🎊 🎊 🎊 🎊 🎊 🎊 🎊 🎊 🎊 🎊 🎊 🎊
1.การปิดล้อมที่ Megiddo
ความขัดแย้งที่นำไปสู่การปิดล้อมอันทรหดเรายาวนานหลายเดือน ที่เมืองแห่งนี้เมืองโบราณ ในอดีตซึ่งตั้งอยู่ในประเทศอิสราเอล ในปัจจุบันถือเป็นเมือง ที่ทำสงครามปิดล้อมครั้งเก่าแก่ที่สุดในประวัติศาสตร์ ที่มีการจารึกเอาไว้บนกำแพง วิหารใกล้เมืองลักซอสงครามครั้งนี้ เกิดขึ้นในศตวรรษที่ 15 ก่อนคริสต์สการณ์เมื่อฟาโรห์ที่สาม แห่งอียิปต์นำกองกำลังบุกเข้าไปในพื้นที่ที่ปัจจุบันเป็นที่ตั้งของปาเลสไตน์
เพื่อปราบปรามกลุ่มกบฏ ซึ่งเป็นแนวร่วมของนครรัฐเมโสโปโปเตเมีย ตามประวัติศาสตร์ ทางทหารของอียิปต์ระบุว่า กองทัพของทั้งสองฝ่ายประเชิญหน้ากัน นอกเมืองเมกิโด้ ซึ่งเป็นการปะทะกันอย่างดุเดือดน้องเลือดของกองกำลังทหารราบ และพลรสม้า แต่ในขณะที่ชาวอียิปต์บุกโจมตีกองกำลังพันธมิตร พวกเขาต้องเสียเวลาไป กับการปล้นค่ายของศัตรู และปล่อยให้สตูถอย กลับเข้าไปในป้อมปราการในเมืองได้
เห็นดังนั้นฟาโรห์ที่สาม จึงได้สั่งให้ตั้งแนวล้อม และตัดการสัญจร เข้าออกจากเมืองการปิดล้อมที่แสนโหดร้ายนี้ กินเวลายาวนานถึงเจ็ดเดือน ชาวเมืองเริ่มเผชิญ กับปัญหาความอดอยาก และโรคร้ายไม่ไหวจนทำให้เจ้าเมืองต้องส่งเด็กชาย และเด็กหญิงอันเป็นตัวแทนออกไปขอสงบศึก ฟาโรห์จึงไว้ชีวิตชาวเมือง เพื่อแลกกับคำปฏิญาณว่า จะภักดีต่อพระองค์ความพ่ายแพ้ เลวร้ายของกบฏนี้ส่งผลให้คำว่าเนินเขาแห่งเมืองในภาษาฮิบรูคำนี้ถูกนำมาใช้เพื่อสื่อถึงความหายนะร้ายแรง ระดับวันสิ้นโลกหรือวันโลกาวินาศ
2.การปิดล้อมที่ Tyre
เมื่อ 332 ปีก่อนคริสตกาล พระเจ้าอเล็กซานเดอร์มหาราช ตั้งเป้าหมายที่จะเข้ายึดเมืองโบราณ หนึ่งในเขตปกครองของเปอร์เซีย ซึ่งมีจุดเด่นตรงทำเลที่ที่ตั้ง ที่เป็นเกาะล้อมรอบด้วยป้อมปราการอันแข็งแกร่ง ที่อาจมีความสูงถึง 45 เมตร ทั้งยังเป็นพื้นที่ปิดเนื่องจากมีชายหาดที่สั้น และน้ำลึกกำแพงเมืองก็อยู่ชิดติดทะเล ส่งผลให้ไม่สามารถเข้าใกล้เมืองได้ โดยวิธีปกติและนอกจากปัจจัย ด้านภูมิศาสตร์แล้วเมืองแห่งนี้
ยังมีกองทัพเรือที่แข็งแกร่ง และมีเสบียงเพียงพอที่จะรับมือ กลับการทำสงครามยืดเยื้ออันยาวนาน ด้วยเหตุนี้กองกำลังอันแข็งแกร่ง จำนวน 35,000 นาย จึงเลือกที่จะโจมตีด้วยการปิดล้อมกรอบ เพื่อกษัตริย์อเล็กซานเดอร์ มีดำริให้นำไม้และหิน มาสร้างทางเชื่อมระหว่างเกาะ กับแผ่นดินใหญ่ เพื่อสะพานนี้เข้าใกล้เมืองมากขึ้น ทหารก็จะสามารถวางเครื่องสำหรับปิดล้อม เพื่อโจมตีกำแพงเมืองได้
หลังจากที่เผชิญหน้ากันยาวนานถึงเจ็ดเดือน ในที่สุดกองทัพกรีกบุกทำลายป้อมปราการ และเข้ายึดเกาะได้สำเร็จส่วนสะพานขนาดใหญ่ ที่สร้างขึ้นมานั้นเมื่อถูกทับถม ด้วยทรายและตะกอน ก็ทำให้เกาะแห่งนี้กลายเป็นคาบสมุทรไปในที่สุดค่ะ
🎊 🎊 🎊 🎊 🎊 🎊 🎊 🎊 🎊 🎊 🎊 🎊 🎊 🎊 🎊 🎊 🎊 🎊 🎊 🎊 🎊 🎊 🎊 🎊
