ตำนานอับดุล เอ้ย มีที่มาจากไหน

ตำนานอับดุล เอ้ย มีที่มาจากไหน

วันนี้แอดมินก็จะมาพาทุกท่านมาทำความรู้จักกับ ตำนานอับดุล เอ้ย มีที่มาจากไหน แน่นอนว่าในหลายๆคน ก็น่าจะรู้จักมายากลชุดนี้อยู่แล้ว โดยเฉพาะในงานวัด ก็มักจะมีอับดุลมาแสดงให้เราได้รับชมกันอยู่เสมอค่ะ ซึ่งเวลาที่เราได้เห็นแสดงเนี่ย

มันก็จะเกิดคำถามในใจมากมายเลยทีเดียวค่ะ ว่าเค้ารู้ได้อย่างไร เค้าเตียมกันหรือเปล่า ซึ่งบางครั้งก็มีการพิสูจน์ โดยการเล่นกับผู้ชมที่ยืนชมอยู่มีการชี้สีกระเป๋าบ้าง สีเสื้อบ้าง หรือแม้แต่เลขในแบงค์ อับดุลก็สามารถรู้ได้ ทั้งที่ถูกคุมผ้าอยู่ซึ่งเมื่อเราได้เห็นเราก็รู้สึก

แล้วก็ตกใจนะคะว่าเค้ารู้ได้ยังไง แล้ววันนี้แอดมินขอพาทุกท่านย้อนกลับไปดูถึงจุดเริ่มต้นของเรื่องราวของมายากล รวมถึงที่มาที่ไปของอับดุล กันหน่อยค่ะว่ามีที่มาที่ไปยังไง แล้วเค้ามีการเตรียมการจริงหรือเปล่า เดี๋ยวไปดูกันค่ะ แต่ก่อนที่จะไป แอดมินก็ต้องขอฝากไปติดตาม ตำนานสวนสยาม กันด้วยนะคะ แล้วในวันนี้ แอดมินก็ต้อง ขอขอบคุณ tiger444  ที่สนับสนุนบทความของเราในวันนี้ด้วยค่ะ 

🎊 🎊 🎊 🎊 🎊 🎊 🎊 🎊 🎊 🎊 🎊 🎊 🎊 🎊 🎊 🎊 🎊 🎊 🎊 🎊 🎊 🎊 🎊 🎊

ตำนานอับดุล เอ้ย มีที่มาจากไหน

🎊 🎊 🎊 🎊 🎊 🎊 🎊 🎊 🎊 🎊 🎊 🎊 🎊 🎊 🎊 🎊 🎊 🎊 🎊 🎊 🎊 🎊 🎊 🎊

ความจริงแล้วเราก็ไม่ได้หลักฐานแน่ชัดนะคะ ว่ามีมาตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่ก็เชื่อกันนะคะ ว่าน่าจะมีมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา ที่เข้ามาพร้อมกับการทำการค้ากับชาวต่างชาติ อย่างเช่น โปรตุเกส ฮอลันดา จีน อินเดีย และประเทศอื่นๆ ซึ่งในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ก็มีบันทึกนะคะ ว่าเริ่มมีชาวต่างชาติ เข้ามาและมีการแสดงเสกดอกไม้ หยิบของจากกระถาง หรือว่าแจกันอยู่บ้าน และอีกข้อมูลนึงก็มีการบันทึก

ว่า การแสดงของไทยเรา เริ่มต้นมาตั้งแต่รัชกาลที่ 4 แต่มีการก่อตั้งเป็นสมาคมตั้งแต่รัชกาลที่ 5 โดยใช้ชื่อว่าสมาคมนักการจัดการปรากฏวิทยากรประดิษฐ์ อุปกรณ์เล่นกล

และมาดูว่าใครประกวดได้ รางวัลอะไรใครได้ที่ 1 ที่ 2 ที่ 3 กันบ้าง ซึ่งในสมัยนั้น เค้าจะฮิตการแสดงแบบโชว์อุปกรณ์ หรือเป็นกลทางวิทยาศาสตร์นะคะ ตัวอย่างตัวอย่างเช่น การใช้น้ำยาเคมี บีบน้ำเปล่าให้เป็นน้ำสีแดง หรือเบียร์ เสกควันออกจากแก้ว

เป็นต้นค่ะ จากนั้นในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ซึ่งเหล่านี้ก็ได้เลือนหาย จนกระทั่งสงครามโลกได้สงบลง และการแสดงกลก็เริ่มกลับเข้ามาอีกครั้ง โดยการกลับมาแสดงกลในครั้งนี้ มีด้วยกัน 3 สายด้วยกัน

ก็คือสายอินเดีย จีน และยุโรป อย่างสายลของจีน ก็จะเรียกว่ากลตาหิ ซึ่งก่อนจะแสดงทุกครั้ง ก็จะมีการตีกลอง ฉิ่ง ฉาบ รำมวย รำดาบ เพื่อเป็นการเรียกผู้ชม และเมื่อแสดงเสร็จ ก็จะมีการขายยา ไม่ว่าจะเป็น

ยารักษาโรค ยาแก้ปวดฟัน อะไรประมาณนี้ค่ะ ส่วนคนยุโรปก็จะเข้ามาในรูปแบบของละครสัตว์ ที่มีคนเป็นส่วนหนึ่งของการแสดง มักจะการแสดงแถววังบูรพา วังสราญรมย์ และอีกฝ่ายก็คือสายอับดุล สายอินเดียซึ่งก็จะจะมีการแสดงกลในรูปแบบของการแปลงกาย แสดงในที่โล่ง ไม่มีเวที อย่างเช่นกลเรียกงู กลเสกมะม่วง และอีกคนหนึ่งที่เราคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี ก็คือกลอับดุลนั่นเองค่ะ

🎊 🎊 🎊 🎊 🎊 🎊 🎊 🎊 🎊 🎊 🎊 🎊 🎊 🎊 🎊 🎊 🎊 🎊 🎊 🎊 🎊 🎊 🎊 🎊